สืบ ตม.3 จับหญิงรับจ้างแต่งงานและปลอมเอกสารต่อวีซ่า

สืบ ตม.3 จับหญิงรับจ้างแต่งงานและปลอมเอกสารต่อวีซ่า

 

ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักในประเทศไทยกระทำความผิดกฎหมายและก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวกับคนไทยหรือต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด


สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 และ ว่าที่ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ดังนี้

“จับหญิงรับจ้างแต่งงานและปลอมเอกสารการต่อวีซ่า”
เนื่องด้วยปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด (COVID – 19) ในระลอกที่ 3 มีต้นทางมาจากต่างประเทศและเป็นเชื้อสายพันธุ์รุนแรงขึ้นและทราบข่าวว่ายังมีอีกสายพันธุ์ที่มาจากประเทศอินเดียเป็นเชื้อที่รุนแรงยิ่งกว่าและน่าวิตกกังวล บก.ตม.3 ตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดีจึงได้มีนโยบายให้เฝ้าระวังบุคคลต่างด้าวที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะประเทศอินเดีย ประกอบกับคนอินเดียบางส่วนที่อยู่ในประเทศไทยนั้นมีพฤติกรรมเป็นที่ไม่พึงประสงค์ โดยมักจะหาคนไทยที่มีอาชีพรับจ้างแต่งงานพร้อมกับใช้เอกสารที่ทำปลอมขึ้นเอง แสดงต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองในการขออยู่ต่อในราชอาณาจักร เพื่อที่จะหลบเลี่ยงแฝงตัวเข้ามาทำงานหรือก่ออาชญากรรมรูปแบบต่าง ๆ และยังสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่รุนแรงอีกด้วย

กรณีดังกล่าวนี้ผู้ต้องหาคือ น.ส.สุรีพร ร่วมมือกับ นายนิราช สัญชาติ อินเดีย (ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้) ได้แจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เพื่อยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักร โดย น.ส.สุรีพร จัดฉากแต่งงานกับนายนิราช เพื่อให้เจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองหลงเชื่อและให้สิทธิอนุญาตให้อยู่ต่อในราชอาณาจักรแบบอุปการะครอบครัวคนไทย แต่ในทางพฤตินัยแล้วทั้งสองคนนี้ไม่ได้มีความสัมพันธ์อยู่กินกันฉันสามีภรรยาอย่างใด ซึ่งต่อมาในคดีนี้พนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ได้ดำเนินการขออนุมัติหมายจับ ประกาศจับ น.ส.สุรีพร ผู้ต้องหารายนี้ จากการสืบสวนของชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.3 ทราบว่าได้หลบหนีมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 11 ต.ดงพระราม อ.เมือง จว.ปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ เมื่อทราบที่หลบซ่อนแน่ชัดจึงได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบโดยใช้รถตรวจการณ์อัจฉริยะ จนกระทั่งตรวจสอบพบตัวผู้ต้องหาจึงได้แสดงหมายจับ ผู้ต้องหารับว่าตนคือ น.ส.สุรีพร บุคคลตามหมายจับจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ”


ในชั้นจับกุมผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับจ้างจากนายนิราชให้จดทะเบียนสมรสด้วย ในราคา 5,000 บาท ร่วมกันปลอมสัญญาเช่าที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ แล้วเอามาแสดงกับเจ้าหน้าที่ให้หลงเชื่อ โดยยังเป็นคนพานายนิราช เดินทางไปที่ บก.ตม.1 เพื่อแสดงความจำนงยื่นขออยู่ต่อฯ อีกด้วย พฤติกรรรมของผู้ต้องหารายนี้ นับว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง เพราะนอกจากจะสนับสนุนให้ชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาก่ออาชญากรรมแล้ว ยังนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคไวรัสโควิด (COVID – 19) สายพันธุ์อินเดีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่รุนแรงและน่าหวาดกลัว

สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่
507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

 

Related posts