แมสก์(หน้ากากอนามัย)ทะลักเข้าเมืองมุกดาหารต่อเนื่องจากประเทศเพื่อนบ้าน ศุลกากร ร่วม กอ.รมน.สกัดจับ 2 วันติดต่อกันรวม 56,500ชิ้น รวมมูลค่า 285,000 บาท
เมื่อเวลา 18.00น.วันที่ 4 มีนาคม 2563 นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายหลับว่ามีกลุ่มนายทุนจากไทย-ลาว-เวียดนาม ร่วมกันลักลอบค้าแมสก์(หน้ากากอนามัย)โดยนายทุนเวียดนาม นำเข้าประเทศลาวก่อนนายทุนลาวลักลอบขนส่งทางรถโดยสารระหว่างประเทศมุกดาหาร-สะหวันนะเขตและลักลอบขน มาทางเรือหางยาว ข้ามโขงมาขึ้นตามแนวชายแดนเพื่อหลบเลี่ยงภาษีไม่ผ่านพิธีการศุลกากร
โดยกลุ่มนายทุนได้ลักลอบนำแมสก์(หน้ากากอนามัย)มาซุกซ่อนภายในช่องเก็บสัมภาระใต้ท้องรถยนต์รถโดยสาร หมายเลขทะเบียน บก-7979 กำแพงนะคอน กำลังออกจากฝั่งสะหวันนะเขต สปป.ลาวข้ามสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาวแห่งที่ 2 มาหยุดตรงจุดตรวจขาเข้า เจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นช่องเก็บสัมภาระพบกล่องกระดาษขนาดใหญ่จำนวน 10 กล่องข้างกล่องมีตัวตัวอักษรเวียดนามบรรจุแมสก์(หน้ากากอนามัย)เมืองกำเนิดอยู่ประเทศเวียดนามยี่ห้อ QUOC BAO
จำนวน 24,000 ชิ้น มูลค่า 120,000 บาท สอบถามคนขับใครเป็นเจ้าของกล่อง คนขับบอกไม่ทราบมีชายนำมาจ้างให้ไปส่งอยู่ที่ขนส่งผู้โดยสารเมืองมุกดาหารแล้วจะมีคนมารับเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตรวจยึดปล่อยให้รถขนมาที่ขนส่งผู้โดยสารจะทำการจับกุมผู้ที่มารับแต่ก็ไหมมีใครมารับเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดส่งด่านศุลกากรมุกดาหารเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2563 นายพร้อมชาย สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นายด่านศุลกากรมุกดาหารได้รับแจ้งจากสายหลับอีกว่ากลุ่มนายทุนค้าแมสก์(หน้ากากอนามัย) กลุ่มนี้ก็เปลี่ยนแผนไม่ลักลอบส่งทางรถเปลี่ยนมาลักลอบขนส่งทางเรือข้ามโขงมาขึ้นตามแนวชายแดน แล้วใช้รถยนต์ขนมาส่งอยู่ที่ขนส่งผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสาร พบกล่องกระดาษขนาดใหญ่จำนวน 13 กล่อง บรรจุแมสก์(หน้ากากอนามัย)ยี่ห้อ KHAN AN จำนวน 32,500 ชิ้น
มูลค่า165,000บาท เตรียมรอนำขึ้นรถโดยสาร ขนส่งนครชัยแอร์จังหวัดมุกดาหาร ไปยัง กรุงเทพมหานครสอบถามพนักงานบริษัท ไม่มีผู้ใดแสดงเป็นเจ้าของ เป็นเพียงของฝากส่งไปกับรถโดยสาร และจะมีผู้มารับปลายทาง เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดหน้ากากอนามัยทั้ง 2 วัน รวมจำนวน 56,500 ชิ้นรวมมูลค่าทั้งหมด 285,000บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า มีกลุ่มนายทุนดังกล่าวลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีประเภทหน้ากากอนามัย นำเข้ามาเพื่อจะส่งต่อไปขายในพื้นที่อื่นๆ เช่นกรุงเทพมหานคร
หรือจังหวัดอื่นๆ โดยผ่านช่องทางการขนส่งโดยรถโดยสารประจำทาง เนื่องจากพิษ COVID -19ดังกล่าวอยู่ในช่วงขาดตลาดและมีความต้องการสูงเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดส่งด่าศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ในความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านศุลกากรอันเป็นความผิดตามมาตรา 242 ประกอบกับมาตรา166,167และมาตรา152 ตามพระราชบัญญัติศุลกากรต่อไป.
*********************************************
กำพล ศรีมณีพันธ์. ภาพ/ข่าว
เดวิท โชคชัย มุกดาหาร รายงาน 092-5259-777