ป.ป.ช.ลั่น เพจ ชมรม STRONG ไม่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช. :

ป.ป.ช.ลั่น เพจ ชมรม STRONG ไม่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช. :

วันที่  28  ม.ค.65  เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ชี้แจงต่อหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี ว่า กลุ่มโอเพ่นแชท และ เฟสบุ๊คเพจ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช. “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” เป็นของเอกชนที่ตั้งขึ้นมาเอง แอดมินเพจ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” ก็ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2564 “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” จัดทำเผยแพร่ข่าวปลอม หรือเฟคนิวส์ โดยได้นำไลน์ปลอม จัดทำเป็นรูปข่าว พร้อมข้อความว่า “เตือนภัย อ้างเป็น ป.ป.ช. เรียกรับเงิน 3 แสน” พร้อมรูปภาพบุคคลสวมแว่นตาดำ ซึ่งบุคคลในภาพคือ นายกิตติศักดิ์ ศิริคลังเจริญรุ่ง พร้อมข้อความว่า “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย”  31 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.27 น. เครือข่ายชมรมฯ ภาคอีสานได้รับเรื่องร้องเรียน กรณีที่มีเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. มีพฤติกรรมขู่กรรโชกทรัพย์ จากเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งจำนวน ๓ แสนบาท เพื่อเป็นค่าโฆษณาในหนังสือพิมพ์ที่ตัวเองเป็นบรรณาธิการอยู่ แลกกับการไม่นำเสนอข่าวขุดคุ้ยความไม่ปกติของโครงการ และยังมีการกล่าวอ้างมีความสนิทกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้งในระดับจังหวัดและภาคที่สามารถสั่งการได้เพราะได้รับการแต่งตั้งมาจากประธานกรรมการ ป.ป.ช. จากการตรวจสอบพบว่าก่อนหน้านี้ทางหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวได้มีการส่งหนังสือไปยังหน่วยงานเพื่อขอข้อมูลและเอกสารการดำเนินโครงการอีกด้วย เรื่องนี้ต้องรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อความกระจ่างต่อสังคมต่อไป ทางชมรมฯ นำเสนอเพื่อเตือนภัยให้กับสังคมได้รับรู้เข้าใจและไม่ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว และหากประชาชน หรือ จนท.รัฐ พบเห็นบุคคลใดแอบอ้าง ป.ป.ช.หรือชมรม STRONG เพื่อเรียกรับเงิน อ้างเคลียร์เรื่องได้ ให้รวบรวมหลักฐาน แจ้ง ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดี  โดยโพสต์ไว้ที่เฟสบุ๊คเพจ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” ทำให้มีการแชร์ข่าวปลอมและคอมเม้นในทางเสียหายจำนวนมาก ทำให้บุคคลในภาพได้รับความเสียหาย นายกิตติศักดิ์  ศิริคลังเจริญรุ่ง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์คู่แผ่นดิน และ นายทะเบียน สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ได้แจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนสภ.เมืองอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีกับ แอดมินเพจ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” และดำเนินการฟ้องบุคคลที่แชร์ข่าวปลอม หรือเฟคนิวส์ ต่อศาลจังหวัดอุดรธานี เพื่อแสวงหาความจริงให้ปรากฎ และทวงคืนศักดิ์ศรีสื่อมวลชน และมีบุคคลฟ้องเป็นจำเลยในคดีหมิ่นประมาทหลายๆท่าน ที่มีวิจารณญาณและได้ตระหนักถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์จึงได้เจรจาตกลงทำความเข้าใจ และขออภัยกัน และได้ลงชี้แจงบนเฟสบุ๊คของตนเอง  โจทก์ก็ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา จึงดำเนินการถอนฟ้องให้ทุกคดี

นอกจากบุคคลทั่วไปก็ยังมีหน่วยงานราชการ ได้แชร์ข่าวปลอมดังกล่าวบน เฟสบุ๊คเพจ “สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1” พร้อมข้อความว่า “ระวัง แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.เรียกรับเงิน  เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หากพบการกระทำดังกล่าวโปรดแจ้งสำนักงาน ป.ป.ช. ตรวจสอบ” และ “สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปราจีนบุรี” ได้แชร์ข่าวปลอมดังกล่าว ทำให้นายกิตติศักดิ์  ศิริคลังเจริญรุ่ง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์คู่แผ่นดิน และ นายทะเบียน สมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ตามคดีหมายเลขดำที่ อ.672 / 2564 และ คดีหมายเลขดำที่ อ.670 / 2564 ศาลจังหวัดอุดรธานี ได้นัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 28 ม.ค.65 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. มาศาลจังหวัดอุดรธานี และทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้ โดย “สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1” และ “สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปราจีนบุรี” จะได้ลงชี้แจงบนเฟสบุ๊ค ของ “สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1” และ “สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดปราจีนบุรี” ว่าข่าวที่หน่วยงานดังกล่าวโพสต์ไปนั้นเป็นข่าวปลอม พร้อมลงภาพถ่ายในข่าวนั้นด้วย แต่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ขอนำเสนอให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อน รอ.ชัยวัฒน์  เหลาทอง ทนายความโจทก์ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ว่า “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” เกี่ยวข้องอะไรกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ทำไมถึงให้ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” ใช้โลโก้ ป.ป.ช. และข้อความ “สนับสนุนโดยกองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” ลงไว้บนเพจ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย”  เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้ชี้แจงต่อหน้าศาลว่า “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย”  ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช. “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” เป็นของเอกชนที่แต่งตั้งขึ้นมาเอง และแอดมินเพจ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” ก็ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.  ส่วนเรื่องที่โลโก้ ป.ป.ช.ที่ “ชมรม STRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” นำไปใช้จะได้นำเสนอผู้บังคับบัญชาต่อไป

Related posts