“พม. เยี่ยม ‘ยายฉ่ำและมารดา’ ของพลทหารชลัช ลูกเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พร้อมวางแผนคุ้มครองช่วยเหลือครอบครัวระยะยาว” :
วันที่ (4 ม.ค. 66) นายกิตติ อินทรกุล รองอธิบดี รักษาการอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ มอบหมายให้นายอุเทน ชนะกุล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต นำเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ณ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ (บ้านประจวบโชค) เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค แก่ “ยายฉ่ำ และมารดา” ของพลทหารชลัช ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ เรือรบหลวงสุโขทัยอับปาง บริเวณทะเลอ่าวไทย ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
นายอุเทน ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวง พม. โดยสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ ได้ให้ความคุ้มครองมารดาของพลทหารชลัช เนื่องจากมีอาการป่วยทางจิตเวช ครอบครัวไม่สามารถดูแลได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ประเมินแล้วว่ามีศักยภาพและพร้อมกลับคืนสู่ครอบครัว เจ้าหน้าที่ได้ลงเยี่ยมบ้านเพื่อเตรียมความพร้อมครอบครัว ในการส่งกลับ (ซึ่งในตอนนั้นพลทหารชลัชอยู่ในความดูแลของยายฉ่ำ) ด้วยความไม่พร้อมทางด้านรายได้และสุขภาพไม่แข็งแรง ยายฉ่ำและครอบครัวจึงไม่สามารถรับลูกสาวกลับไปดูแลได้ ทำให้มารดาของพลทหารชลัช อยู่ในความดูแลของกระทรวง พม. มาเป็นเวลากว่า 14 ปี ต่อมา เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเรือรบหลวงสุโขทัยอับปาง ในคืนวันที่ 18 ธันวาคม 2565 เป็นเหตุให้ทหารเรือประจำเรือรบหลวงฯ สูญหายและเสียชีวิต ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พลทหารชลัช อ้อยทอง
นายอุเทน กล่าวต่อไปว่า การพบกันระหว่าง ยายฉ่ำและบุตรสาว (มารดาของพลทหารชลัช) เกิดขึ้นระหว่างที่กองทัพเรือพยายามสืบค้นข้อมูลทางทะเบียนราษฎร์เพื่อพิสูจน์หลักฐานจัดเก็บสารพันธุกรรม (DNA) และแจ้งการเสียชีวิต จนทราบว่า มารดาพลทหารชลัชอยู่ในความดูแลของสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ จากนั้น เจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ได้พาตัวมารดาไปจัดเก็บหลักฐาน ณ มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน โดยในระหว่างนั้น ยายฉ่ำ ก็เดินทางมาจาก จ.ชุมพร เช่นกัน ทำให้ทั้ง 2 ได้พบกันหลังจากไม่ได้เจอกันเป็นเวลา 14 ปี ซึ่งยายฉ่ำ มีความประสงค์อยู่อาศัยกับบุตรสาวที่สถานคุ้มครองฯ ประจวบคีรีขันธ์
ยายฉ่ำ เล่าว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่สถานคุ้มครองฯ กับลูกสาวรู้สึกสบายใจและมีความสุขดีกว่าอยู่คนเดียวที่บ้าน หลังจากไม่ได้เจอบุตรสาวนาน แม้จะเป็นห่วงเรื่องที่บ้านและหนี้สิน แต่ในระหว่างนี้ขออยู่กับลูกสาวก่อน ซึ่งหากใช้หนี้สินที่ จ.ชุมพร หมดแล้ว ถ้าเป็นไปได้อยากกลับมาอยู่กับลูกสาวที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ด้าน นางไพทิพย์ หนูพรหม ผู้ปกครองสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า สถานคุ้มครองฯ ประจวบฯ ได้ให้การคุ้มครองดูแลยายฉ่ำ โดยให้พักอาศัยอยู่กับบุตรสาวในสถานคุ้มครองฯ เป็นกรณีพิเศษในระหว่างที่กองทัพเรือและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินเรื่องเยียวยาครอบครัวของพลทหารชลัช นอกจากนี้ พม. ได้ประเมินแล้วว่า ยายฉ่ำและบุตรสาว เป็นกลุ่มคนเปราะบาง อาจประสบปัญหาทางสังคมได้หากไม่ได้อยู่ในความดูแลของรัฐ ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการจัดประชุมทีมสหวิชาชีพ โดยจะประสานหน่วยงาน พม. จ.ชุมพร และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อัยการคุ้มครองสิทธิฯ ผู้ว่าราชการจังหวัด ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือยายฉ่ำและบุตรสาวตามความเหมาะสม ต่อไป
