เปิดแล้ว!! “มหาจุฬาอโยธยาเกมส์” เชื่อมสัมพันธ์บุคลากร ครั้งที่ 15 มจร. ส่งเสริมเล่นกีฬา สร้างสุขภาพร่างกายแข็งแรง และศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร (ฝ่ายคฤหัสถ์) :
วันที่ 22 พ.ย.67 นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ปฏิบัติหน้าที่แทน นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาบุคลากร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ครั้งที่ 15 “มหาจุฬาอโยธยาเกมส์” โดยมี รศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการกีฬาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) อ่านสาส์น พระพรหมวัชร ธีราจารย์, ศ.ดร. อธิการบดี และมี ร.ต.ท.ดร มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวรายงาน ซึ่งมีบุคลากร มจร.ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ร่วมพิธี ณ สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้จัดการแข่งขันกีฬาบุคลากรครั้งนี้ เพราะการเล่นกีฬาช่วยทำให้ร่างกายมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็ง ช่วยพัฒนาสติปัญญาและช่วยให้รู้จักการควบคุมอารมณ์ของตนเอง รู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักการให้อภัย อันเป็นน้ำใจของนักกีฬา อีกทั้งกีฬา ยังเป็นสื่อของการสร้างความสุข ความสมัครสมานสามัคคี และสร้างสัมพันธไมตรีอันดีต่อกัน ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพและศักยภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในองค์กร
ด้าน รศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมการกีฬาของ มจร. กล่าวว่า การจัดโครงการส่งเสริมสุขภาพและศักยภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร (ฝ่ายคฤหัสถ์ ) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ครั้งที่ 15 “มหาจุฬาอโยธยาเกมส์” ครั้งนี้ อยากให้บุคลากรฝ่ายคฤหาสน์ของ มจร.ที่มีอยู่ทั่วประเทศใน 45 จังหวัด มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง พร้อมที่จะปฏิบัติงานได้อย่างประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเบิกรักษาพยาบาล และที่สำคัญเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ มีความรัก ความสามัคคีระหว่างบุคลากรร่วมกัน เพราะถ้าบุคลากรทั้ง 45 จังหวัด ไม่เข้าใจกัน การประสานงานจะยาก การเอากีฬามาเชื่อมสัมพันธ์ ช่วยให้มีความเป็นพี่เป็นน้อง การประสานงานง่ายขึ้น ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า “วิสาสา ปรมา ญาตี” ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ที่จัดมาแล้ว 15 ปี และสมควรดำเนินการต่อไป
“การที่บุคลากรจะมีสุขภาพดีร่างกายต้องเคลื่อนไหว คือออกกำลังกาย และมีจิตใจสงบนิ่ง คือฝึกสมาธิ มีสติ ถ้าเราไม่ออกกำลังกายจะเป็นเหตุของการโรคอย่างมาก ต้องเบิกค่ารักษาพยาบาลเป็นว่าเล่น แต่เมื่อมีการจักแข่งขันกีฬาขึ้นมาสู่ปีที่ 15 แล้ว ช่วยลดโรค บุคลากรมีสุขภาพแข็งแรง ที่สำคัญเบิกค่ารักษาพยาบาลน้อยลงมาก”
ขณะที่ ร.ต.ท.ดร มนัส โนนุช ประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า มจร. ให้ความสำคัญต่อเรื่องบุคลากรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ อยากให้พี่น้องทุกคนที่มาร่วมงานกีฬาครั้งนี้ นึกถึงสุขภาพตัวเองเป็นหลัก เมื่อเราแข็งแรงแล้ว เราจะได้กลับไปทำงานให้กับ มจร.ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ฝากถึงนักกีฬาทุกคน เรามาแข่งขันกีฬาครั้งนี้ ให้รู้จักแพ้รู้จักชนะ รู้อภัย รวมถึงให้ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน อันจะนำมาซึ่งความผาสุกใน มจร.ของเรา ขอให้ทุกคนรักและสามัคคีกันครับ